กระเทียม เหตุใดกระเทียมจึงสดและปลอดภัย เมื่อรับประทานในฤดูกาลต่างๆ กระเทียมเป็นผักชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไป ซึ่งนำมาทำอาหารในชีวิตประจำวันเกือบทุกครอบครัว ซึ่งเมื่อปรุงอาหารแล้วจะมีกลิ่นหอมมาก เป็นส่วนผสมอเนกประสงค์สำหรับการผัด หรือบาร์บีคิว กระเทียมมีกลิ่นเฉพาะตัวและรสเผ็ด
อย่างไรก็ตาม โรคและแมลงศัตรูพืชมักเกิดขึ้นระหว่างการเจริญเติบโตของกระเทียม หากไม่ใช้สารกำจัดศัตรูพืช หรือใช้ยาฆ่าแมลงที่ห้ามใช้สารกำจัดศัตรูพืชตกค้างจะเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์ หลังการบริโภคอาจไม่ปลอดภัย
กระเทียมมีความอบอุ่นในธรรมชาติและมีรสฉุน ซึ่งช่วยทำให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ประกอบด้วยเซลลูโลสจำนวนมาก ซึ่งส่งเสริมการบีบตัวของลำไส้ของมนุษย์ และขับของเสียในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีน้ำมันหอมระเหยระเหยง่าย ซัลไฟด์โพรพิลีน ใยอาหาร ซาโปนิน ฟลาโวนอยด์เป็นต้น ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ เพิ่มความอยากอาหาร ในขณะเดียวกันก็ช่วยขยายหลอดเลือดและลดไขมันในเลือด
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีภาวะพร่อง หรือมีปัญหาทางเดินอาหารไม่ควรรับประทานมาก กระเทียมปลูกในพืชหลายชนิดทุกปี แมลงศัตรูพืชเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างไม่สมเหตุสมผล จะส่งผลให้มีสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ หลังการบริโภคได้ง่าย
ดังนั้นผู้บริโภคให้ใส่ใจกับช่องทางการซื้อ เลือกซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดทั่วไปเพื่อซื้อ พยายามลดหรือหลีกเลี่ยงการซื้อกระเทียมที่ไม่ทราบที่มา ในการเลือกกระเทียม ควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ ดูที่รูปลักษณ์หรือใบกระเทียม เพราะมันจะมีความสด สีเขียว เงา ตรงและมีใบหนา ถ้าใบเหี่ยวหรือแห้ง หรือเหลืองอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นต้นที่ทิ้งไว้นานแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถดูที่รากได้
กระเทียมสามารถแบ่งออกเป็นผักใบกว้าง ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามรสนิยม และความต้องการ การตัดกระเทียมที่หั่นสะอาดจะค่อนข้างสดกว่า ถ้าส่วนใดงอกขึ้นตรงกลางของกระเทียมจะมีลักษณะที่ไม่ดี แสดงว่าไม่สดแล้ว เมื่อใช้เวลาในการตัดนานขึ้น กระเทียม จะมีออกซิเดชันที่เห็นได้ชัดเช่น การสูญเสียน้ำ ผิวจะดูคล้ำ
วิถีการกินกระเทียมมีส่วนผสมพิเศษเช่น น้ำมันหอมระเหยและซัลไฟด์ที่ระเหยง่าย ซึ่งปล่อยกลิ่นรสเผ็ดที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสามารถเพิ่มความอยากอาหาร และส่งเสริมการย่อยอาหาร ก่อนรับประทานกระเทียมให้คำนึงถึงสิ่งนี้ ควรทำความสะอาด และขจัดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง กระเทียมที่ซื้อมาควรแกะผิวด้านนอกออก แช่ในน้ำสะอาดและล้างซ้ำๆ
ซึ่งสามารถลดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ที่อาจปรากฏในกระเทียม สามารถใช้วิธีการแช่น้ำอัลคาไลน์เพื่อทำความสะอาด หลังจากเลือกผักแล้ว ให้ล้างผิวของกระเทียมด้วยน้ำ เพื่อขจัดตะกอนของสารตกค้าง แล้วละลายในน้ำด่าง เพิ่มประมาณด่างที่รับประทานได้ 10 กรัมในน้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร แล้วแช่ในน้ำประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง
ผู้ป่วยทางเดินอาหารต้องรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง กระเทียมมีไฟเบอร์สูงและเป็นอาหารฉุน ผู้ที่มีอาการอาหารไม่ย่อย หรือระบบย่อยอาหารไม่ย่อย ดังนั้นไม่ควรรับประทานมากเกินไป เวลาในการจัดเก็บไม่ควรนาน ผู้บริโภคพยายามควรซื้อให้มากที่สุด กระเทียมดิบที่ยังไม่แปรรูป สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ แต่ด้วยการขยายเวลาการเก็บรักษารสชาติจะแย่ลง
กระเทียมที่ปรุงแล้วควรรับประทานโดยเร็วที่สุด และไม่แนะนำให้บริโภค เก็บไว้นานกว่า 24 ชั่วโมง ให้บริโภคกระเทียมที่ปรุงแล้วหลังจากอุ่น คุณค่าทางโภชนาการของกระเทียมนั้นสูงมาก มีวิตามินมากมาย แต่ถ้าซื้อกระเทียมมากเกินไป มันจะเน่าง่าย ถ้าไม่กินมันจนหมด สำหรับการเก็บรักษากระเทียมสามารถทำได้ดังนี้
ขั้นแรก หลังจากใส่กระเทียมที่ยังไม่เสร็จ ให้มัดด้วยเชือกแล้วมัดไว้ด้านบน อย่างที่สอง เตรียมใบกะหล่ำปลีสองสามชิ้น แล้วห่อกระเทียมไว้ ใบกะหล่ำปลีสามารถเพิ่มความชื้นให้กับกระเทียมได้ เพื่อให้แน่ใจว่า น้ำจะไม่หายไป สุดท้ายวางไว้ในที่เย็น และมีอากาศถ่ายเท ซึ่งสามารถลดการระเหยของน้ำ เพราะรักษาความสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้สามารถเก็บกระเทียมหอมได้ประมาณครึ่งเดือน
วิธีถนอม ควรเตรียมน้ำสะอาดในหม้อ มัดกระเทียมหรือต้นหอมด้วยเชือก แล้วใส่รากลงไปในหม้อ และน้ำสะอาดในอ่างไม่ควรผ่านรากกล่าวคือ รากของกระเทียมที่แช่ และลำต้นใกล้รากด้วยวิธีนี้ น้ำที่ต้องการสามารถเติมลงในกระเทียมได้ และกระเทียมสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 5 วันถึง 1 สัปดาห์
วิธีถนอมถุงพลาสติก มัดกระเทียมที่เลือก แล้วใส่ในถุงพลาสติกขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย จากนั้นระบายอากาศภายใน จากนั้นเจาะรูเล็กๆ สองสามรูในถุงพลาสติก แล้ววางในที่เย็นที่มีอากาศถ่ายเท เพราะยังสามารถเก็บกระเทียมไว้ในตู้เย็นได้ แต่ต้องเด็ดใบเหลืองและเน่าเสียก่อน แล้วห่อด้วยพลาสติกแรป เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ
อ่านต่อเพิ่มเติม ::: เงิน หลังเกษียณมีประโยชน์อย่างไร